วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แอนดรอยด์ (ระบบปฏิบัติการ)

แอนดรอยด์ (ระบบปฏิบัติการ)
แอนดรอยด์ (android) เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ก ทำงานบนลินุกซ์ เคอร์เนล เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอนดรอยด์ (Android Inc.) จากนั้นบริษัทแอนดรอยด์ถูกซื้อโดยกูเกิล และนำแอนดรอยด์ไปพัฒนาต่อ ภายหลังถูกพัฒนาในนามของ Open Handset Alliance[2] ทางกูเกิลได้เปิดให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ดต่างๆ ด้วยภาษาจาวา และควบคุมอุปกรณ์ผ่านทางชุด Java libraries ที่กูเกิลพัฒนาขึ้น
แอนดรอยด์ได้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดยทางกูเกิลได้ประกาศก่อตั้ง Open Handset Alliance[3]กลุ่มบริษัทฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และการสื่อสาร 48 แห่ง ที่ร่วมมือกันเพื่อพัฒนา มาตรฐานเปิด สำหรับอุปกรณ์มือถือ ลิขสิทธิ์ของโค้ดแอนดรอยด์นี้จะใช้ในลักษณะของซอฟต์แวร์เสรี
โทรศัพท์เครื่องแรกที่สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้คือ HTC Dream ออกจำหน่ายเมื่อ 22 ตุลาคม 2551[4]
ความสามารถใหม่ของ แอนดรอยด์ 2.3 ที่เพิ่มขึ้นมาคือ Near field communication
ซิมเบียน(Symbian)
คือ ระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ พัฒนาโดยบริษัท Symbian Ltd. โดยออกแบบสำหรับทำงานเฉพาะหน่วยประมวลผล ARM
ปัจจุบันมีบริษัทที่ถือหุ้นส่วนอยู่ได้แก่ อีริกสัน (15.6%) โนเกีย (47.9%) พานาโซนิก (10.5%) ซัมซุง (4.5%) ซิเมนส์ (8.4%) และ โซนี อีริกสัน (13.1%) โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ซิมเบียนเริ่มใช้งานเมื่อในเดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2541 ปัจจุบัน
อุปกรณ์ทำงานกับซิมเบียน
·         การ์ดหน่วยความจำภายนอก เช่น SD/MMC CARD, RS-MMC CARD
·         อินฟราเรด
·         บลูทูธ
·         สายเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ส่งข้อมูล หรือสามารถใช้ การ์ดรีดเดอร์ ในการอ่านข้อมูลจากหน่วยความจำภายนอก
·         Near field communication *หมายเหตุ มีในSymbian Belle
ประวัติการพัฒนาของ Symbian
Symbian OS 6.0 หรือที่เรียกว่า ER6 (EPOC Release 6, ออกวางจำหน่ายก่อนหน้านี้ 5) ได้เปิดตัวใน 2001.
EPOC32 สนับสนุนการพัฒนาแยกอินเตอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI €™ s) & ฟังก์ชันเดียวกันได้ ported เพื่อ Symbian, นี่ก็เป็นผลในสามส่วนติดต่อผู้ใช้ที่สำคัญมีการพัฒนา; Nokia S60, UIQ โดยโมโตโรล่า & Sony Ericsson & MOAP(S) โดย NTT DoCoMo.
จากผู้ใช้รุ่นนี้มีความสามารถในการติดตั้งโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์ของพวกเขา. โทรศัพท์คนแรกที่มาพร้อมกับ S60 UI & Symbian OS 6.1 เป็นโนเกีย 7650; มันเป็นโทรศัพท์ 2.5G แรกและมีกล้อง & เซ็นเซอร์วัดแสง.
บางคุณสมบัติของ Symbian OS 6 รวมบลูทู ธ, IrDA & สนับสนุนหน่วยความจำภายนอก, XHTML, MMS, Java MIDP 1.0, SMTP, IMAP4, และความสามารถ POP3.
Symbian OS 7.0 ได้เปิดตัวใน 2003; จะเพิ่มการสนับสนุนสำหรับ Java MIDP 2.0. นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายหลายพร้อมกันเข้ามา (เรียกดู & ส่งอีเมลได้ในเวลาเดียวกัน) & ความสามารถในการเลือกการเชื่อมต่อเครือข่ายขึ้นอยู่กับคุณภาพของการบริการ.
ประสิทธิภาพการทำงานมัลติมีเดียได้ดีขึ้นด้วยการสนับสนุนการใช้งานแบบมัลติเธรดสื่อเช่น. Games, เครื่องเล่นสื่อ.
รอบ 1.18 ล้านบาทโทรศัพท์มือถือ Symbian ถูกส่งในไตรมาส 1 2003 เมื่อเทียบกับ 2 ล้านบาทในการจัดส่ง 2002 โดยภาพรวม.
โนเกีย ส่วนติดต่อผู้ใช้ S60 2nd Edition และรุ่น 2 แพ็คคุณสมบัติ 1 (FP1) โดยขึ้นอยู่กับรุ่นนี้ Symbian OS 8.0 ได้เปิดตัวใน 2004. ที่ว่าโทรศัพท์เวลาปกติมีสองหน่วยประมวลผล / ชิป, หนึ่งในการจัดการการสื่อสารและอื่น ๆ ในการจัดการการดำเนินงานระบบและข้อมูลของผู้ใช้หรือมีสองระบบปฏิบัติการ, อย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับส่วนวิทยุและการจัดการผู้ใช้อื่น ๆ €™ s ข้อมูล.
Symbian 8.0 คือสามารถจัดการทั้งสองด้วยตัวเอง.
นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของโทรศัพท์มือถือ Symbian & ทำให้มันเป็น OS แรกที่สำคัญโทรศัพท์มือถือเพื่ออวดความสามารถนี้.
การปรับปรุงอื่น ๆ รวมถึงเพิ่มความสามารถมัลติมีเดีย, การสนับสนุน Java ดีกว่า, OpenGL ES & SDIO (SD ความหมายขยายหน่วยความจำ & การสนับสนุนเทคโนโลยีเช่น DVB - H & การจดจำลายนิ้วมือ).
โนเกียโทรศัพท์แรกของ N - series N90 จะขึ้นอยู่กับรุ่น 8.1. S60 2ครั้ง Edition FP2 และ FP3 ได้ขึ้นอยู่กับรุ่น 8.0 & 8.1. Symbian OS 9.1 ออกวางจำหน่ายได้ในช่วงต้น 2005 แต่รุ่น 9.0 ไม่ได้มีไว้สำหรับประชาชนทั่วไป.
ในรุ่น 9.1 และการอัพเกรดเป็นผลเนื่องมาจากคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นมีการเพิ่ม. การปรับปรุงอื่น ๆ รวมถึง HSDPA และในตัว WiFi & บลูทู ธ 2.0 สนับสนุน, ความสามารถในการรับสาย IP ผ่าน WiFi.
รูปแบบที่ 9.4 เพิ่มการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ. S60 3. Edition ขึ้นอยู่กับ 9.1, 3. Edition FP1 บน 9.2 & FP2 บน 9.3. S60 5TH หรือ Symbian Edition 1 ( S^ 1) จะขึ้นอยู่กับรุ่น 9.4.
Symbian OS 9.5 คือรุ่นล่าสุดของชุดระบบปฏิบัติการ Symbian, ประกาศในเดือนมีนาคม 2007. มันต้องมี 20-30% RAM น้อยลง & เวลาเริ่มต้นสำหรับระบบปฏิบัติการลดลง & การใช้งาน
Symbian Annaด้วยการเปิดตัวของ Nokia X7 และ E6 มารุ่นใหม่ที่เรียกว่า Symbianแอนนา
ตามวิสัยทัศน์ประมาณโทรศัพท์มือถือ. 446 ล้านโทรศัพท์ Symbian OS ได้รับการจัดส่งเป็นของ H2 2010. อนาคตของระบบปฏิบัติการที่อาศัยอยู่กับเราทุกปีเหล่านี้ & ขับเคลื่อนที่ดีที่สุดโทรศัพท์สื่อในขณะนี้ไม่เป็นที่รู้จักเป็น Nokia ได้ตัดสินใจที่จะร่วมเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ การใช้ Windows เป็นฐานของระบบปฏิบัติการสำหรับมาร์ทโฟน.
Symbian Belle โนเกียเปิดตัว Symbian รุ่นถัดไปรหัส "Belle" (นับต่อจาก Anna ที่ใช้ตัว A แนวทางเดียวกับ Ubuntu) เรียบร้อยของใหม่ใน Symbian Belle มีดังนี้
-  widget แบบปรับขนาดได้ มีด้วยกัน 5 ขนาด, เพิ่ม widget สำหรับเปิดปิด Bluetooth และเปลี่ยน profile ของมือถือ
                    - เพิ่มจำนวน homescreen จาก 3 เป็น 6
   statusbar ที่ลากลงมาข้างล่างได้แบบ Android
                   -ปรับโครงสร้างเมนูใหม่ให้เหลือชั้นเดียว (แบบ Android) ย้ายแถบแสดงปุ่มคำสั่งลงมาด้านล่างของหน้าจอ (แบบเดียวกับ N9)
                    -  เพิ่มแอพใหม่จากไมโครซอฟท์หลายตัว เช่น Lync, SharePoint, OneNote, Exchange ActiveSync, PowerPoint Broadcaster
                    - แสดงสถานะต่างๆ ในหน้าจอ lockscreen เช่น สายที่ไม่ได้รับ ข้อความ ฯลฯ
                   -รองรับ NFC เต็มที่ ส่งรูปภาพข้ามเครื่องกันได้ผ่าน NFC เพียงแค่นำเครื่องไปวางไว้ใกล้ๆ กัน
   ปรับปรุงประสิทธิภาพของมัลติทาสกิง
    3G หรือ Third Generation

                 เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคที่ 3 อุปกรณ์การสื่อสารยุคที่ 3 นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่ผสมผสาน การนำเสนอข้อมูล และ เทคโนโลยีในปัจจุบันเข้าด้วยกัน เช่น PDA โทรศัพท์มือถือ Walkman, กล้องถ่ายรูป และ อินเทอร์เน็ต
  3G เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องจากยุคที่ 2 และ 2.5 ซึ่งเป็นยุคที่มีการให้บริการระบบเสียง และ การส่งข้อมูลในขั้นต้น ทั้งยังมีข้อจำกัดอยู่มาก การพัฒนาของ 3G ทำให้เกิดการใช้บริการมัลติมีเดีย และ ส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายด้วยอัตราความเร็วที่สูงขึ้น
              ลักษณะการทำงานของ 3G เมื่อเปรียบเทียบเทคโนโลยี 2G กับ 3G แล้ว 3G มีช่องสัญญาณความถี่ และ ความจุในการรับส่งข้อมูลที่มากกว่า ทำให้ประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลแอพพลิเคชั่น รวมทั้งบริการระบบเสียงดีขึ้น พร้อมทั้งสามารถใช้ บริการมัลติมีเดียได้เต็มที่ และ สมบูรณ์แบบขึ้น เช่น บริการส่งแฟกซ์, โทรศัพท์ต่างประเทศ ,รับ-ส่งข้อความที่มีขนาดใหญ่ ,ประชุมทางไกลผ่านหน้าจออุปกรณ์สื่อสาร, ดาวน์โหลดเพลง, ชมภาพยนตร์แบบสั้นๆ เทคโนโลยี
เทคโนโลยี 4G ( Forth Generation )
เทคโนโลยี 4จี เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ หรือเป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล โดยระบบเครือข่ายใหม่นี้ จะสามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง นอกจากนั้น สถานีฐาน ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง และมีต้นทุนการติดตั้งที่แพงลิ่วในขณะนี้ จะมีให้เห็นกันอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับหลอดไฟฟ้าตามบ้านเลยทีเดียว สำหรับ 4จี จะสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เมกะไบต์ต่อวินาที ซึ่งห่างจากความเร็วของชุดอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ที่ระดับ 10 กิโลบิตต่อวินาที
5G
1.) หลักการ 3G + หลักการทางทฤษฎีและระเบียบกฎเกณฑ์
หลักการ 3G เป็นคำศัพท์ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายสาขาของอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมบริหารการผลิตหลักการ 3G นี้ มาจากศัพท์ 3 คำในภาษาญี่ปุ่น โดยมีความหมายว่า จงไปที่พื้นที่จริง (GENBA) ไปดูของจริง( GENBUTSU ) และ สถานการณ์จริง (GENJITSU) ความหมายแฝงของหลักการ 3G คือ การที่เรานั่งทำงานอยู่บนโต๊ะเพียงอย่างเดียว จะทำให้เราไม่สามารถมองเห็นหรือทราบถึงความเป็นจริงได้ ดังนั้น เราควรจะเข้าไปในพื้นที่ที่เกิดปัญหา ใช้สายตาของตนมองปัญหาที่เกิดขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลจากสภาพแวดล้อมและความเป็นจริงที่ได้รับทราบ แล้วจึงค่อยตัดสินใจแก้ไขปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
จากการนำเอาหลักการ 3G ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งประกอบไปด้วย พื้นที่จริง ของจริง และประสบการณ์จริง มารวมกับ สิ่งที่ควรเป็นมาตรฐานในการตัดสินใจอีก 2 ประการ มาเพิ่มเติมเข้าไป นั่นคือ หลักการทางทฤษฎี( GENRI ) และ ระเบียบกฎเกณฑ์ (GENSOKU) ทำให้เกิดหลังการ 5G ขึ้นมา คงจะต้องอธิบายว่า ทำไมจึงนำเอา หลักการทางทฤษฎี และ ระเบียบกฎเกณฑ์ มารวมกับ พื้นที่จริง ของจริง
และ สถานการณ์จริงในการปฏิบัติงาน ทำให้เป็นหลักการ 5G ขึ้นมา
เหตุผลก็คือ มีคนจำนวนมากที่นำเอาหลักการ 3G ไปใช้ปฏิบัติจริง หากแต่ยังขาดหลักการและทฤษฎีอยู่ เป็นเพราะหลักการ 3G นี้ มิได้รวมเอาสิ่งที่ควรเป็นมาตรฐานในการตัดสินใจเข้าไปด้วย ตามปรกติแล้วคนที่มีความคิด จะมีการตัดสินใจจากประสบการณ์ที่ตงเองเคยผ่านมา หากแต่มันขาดหลักการทางกฤษฎีและระเบียบเกณฑ์ ทำให้การตัดสินใจนั้นเกิดความเคยชิน และรวดเร็ว ถึงแม้จะเป็นคนที่มีการตัดสินใจดีและรวดเร็วเพียงใดก็ตามแต่หากสิ่งนั้นไม่ได้เป็นไปตามหลักการทางทฤษฎีและระเบียบเกณฑ์แล้ว การตัดสินใจนั้นก็ไม่อาจจัดได้ว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมได้
สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องการปฏิบัติงาน ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติตามหลักการ 3G แต่ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีการสังเกต พิจารณาถึงตัวปัญหาได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน หมายความว่า การปฏิบัติตามหลักการ 3G ให้ได้ประโยชน์สมบูรณ์นั้น จำเป็นต้องมีหลักการทางทฤษฎี และระเบียบเกณฑ์สนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วย
3G = พื้นที่จริง (GENBA) ของจริง( GENGUTSU )
สถานการณ์จริง( GENJITSU )
2G = หลักการทางทฤษฎี( GENRI ) ระเบียบกฎเกณฑ์( GENSOKU )
หลักการ 5G = ( พื้นที่จริง + ของจริง + สถานการณ์จริง )
( หลักการทางทฤษฎี + ระเบียบเกณฑ์ )
หลักการ 3G : จะต้องไปที่พื้นที่จริงที่เกิดปัญหา ดูของจริงและคิดถึงสถานการณ์ จริง ณ จุดปฏิบัตินั้นๆ
หลักการทางทฤษฎี : หลักการ หรือ ทฤษฎีพื้นฐานที่สามารถอธิบายเหตุการณ์ต่างๆได้
ระเบียบกฎเกณฑ์ : ระเบียบข้อบังคับพื้นฐาน หรือ หลักเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง ตามกาลเวลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น